ทักษะ 5 ประการ ที่จำเป็นในอนาคต
ในอนาคตอีกไม่ไกลเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปมากถึงขั้นหลายๆอาชีพที่มีอยู่ในปัจจุบันค่อยๆ หดหายไป อาชีพใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคิดฝันมาก่อนจะเกิดขึ้นมาใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่คำถามสำคัญว่า ถ้าอย่างนั้น ทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคตคืออะไร จะเป็นทักษะชุดเดียวกับสิ่งที่เรามีในอดีต และนำมาใช้ในปัจจุบันจะประสบความสำเร็จอีกหรือไม่
ลองมาดูกันซิครับว่ามีอะไรบ้าง และปัจจุบันท่านและบุตรหลานมีแล้วหรือยัง?
ประการที่ 1 ความสามารถในการติดตามและมองเห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
เนื่องจากในปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงรอบๆ ตัวเราเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นทุกขณะ แต่เราคงยังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สมมติฐานความรู้ กรอบวิธีคิดแบบเดิม ในไม่ช้าเราจะเป็นคนล้าสมัย
ความน่ากลัวในปัจจุบันก็คือ เราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าความรู้ ทักษะที่เราได้เรียนรู้ในอดีตหรือปัจจุบันจะเพียงพอที่จะทำให้เราสามารถประกอบอาชีพและประสบความสำเร็จได้ต่อไปตลอดชีวิต
“ผู้เขียน” ในด้านธุรกิจการสีข้าวนั้น การเปลี่ยนแปลงเร็วมากระยะไม่กี่ปีมานี้ การขยายตัวของโรงสีข้าวเติบโตอย่างรวดเร็ว ติดตั้งเครื่องจักร อุปกรณ์ในการสีข้าวคุณภาพดีเพื่อการส่งออก สีข้าวได้รวดเร็ว การสร้างโรงสีข้าวขนาดใหญ่เพื่อการส่งออก เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ระบบการสีข้าวเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม การจับกลุ่มโรงสีข้าวที่มีศักยภาพในการสีข้าวคุณภาพเยี่ยมขนาดใหญ่เพื่อการส่งออกเริ่มมีมากขึ้น และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ ที่ครบวงจร
ในอนาคต การส่งออกข้าวสารจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังบทความข้างต้น “ถ้าเราใช้กรอบวิธีคิดแบบเดิมๆ ในไม่ช้าเราอาจจะเป็นคนล้าสมัย ตกยุคและตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง” เพราะภาครัฐส่งเสริมภาคการส่งออกอย่างเต็มที่ กฎระเบียบได้เอื้ออำนวยแก่ผู้ส่งออกอย่างมาก
ท่านอาจจะแปลกใจที่มีโรงสีข้าวขนาดกลางข้างบ้านท่าน ทำการส่งออกข้าวคุณภาพดีไปต่างประเทศหรือประเทศที่คุณนึกไม่ถึงก็ได้ เขาทำกันมาหลายปีแล้ว มีกลุ่มโรงสีขนาดใหญ่หลายกลุ่มที่กำลังสร้างท่าเรือเพื่อการส่งออกทั้งข้าวสารและผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ แล้วเราเตรียมตัวหรือยัง?
ประการที่ 2 คือความสามารถที่จะเรียนรู้และอยู่กับเทคโนโลยี่ใหม่ๆ
เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเรามากขึ้น ดังนั้นการที่เราไม่สามารถไปต่อต้านเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เราจะต้องเรียนรู้ใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับเทคโนโลยีมากขึ้น
ที่สำคัญ คือ ต้องผนวกความรู้ทักษะที่เรามีความชำนาญในเรื่องงานต่างๆ ให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ได้ และจะดียิ่งกว่านั้นคือถ้าเราสามารถเห็นสิ่งที่ เทคโนโลยียังขาดหรือยังไม่ได้ทำหรือทำไม่ได้และเราสามารถพัฒนาทักษะของตนเองในเรื่องดังกล่าวจะเป็นการดีอย่างมาก
“ผู้เขียน” ในด้านการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกและข้าวสาร ปัจจุบันทั่วโลกกำลังรณรงค์เรื่องสารพิษจากเคมี เทคโนโลยีที่มาช่วยในเรื่องการถนอมอาหาร ให้ปลอดสารเคมี หรือปลอดสารพิษกำลังเป็นที่เข้มงวดในหมวดของอาหารโดยเฉพาะข้าวสาร
แล้วภาคโรงสีข้าวซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรง เราได้ศึกษามากแค่ไหน การส่งออกข้าวสารที่ปลอดสารเคมี สารตกค้าง จะทำให้เรามีตลาดที่ดี และราคาแพง บางทีเราอาจจะต้องเริ่มต้นที่การเพาะปลูกข้าว การใส่ปุ๋ย การพ่นยากำจัดแมลง การเก็บรักษาข้าวเปลือก การเก็บรักษาข้าวสาร บรรจุภัณฑ์
เราต้องศึกษาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถนำมาใช้ในเรื่องข้าวปลอดภัยนี้อย่างจริงจัง ก่อนที่คู่แข่งจะชิงความได้เปรียบ
ประการที่ 3 ความคิดสร้างสรรค์
จากรายงาน The Future of Jops ของ World Economic Forum ที่ออกมาเมื่อต้นปีนี้ มีการเปรียบเทียบทักษะที่สำคัญที่ออกเมื่อต้นปีนี้ เราจะพบว่า เรื่องความคิดสร้างสรรค์จากที่เคยอยู่ในอันดับท้ายๆ ตารางขึ้นมาถึงอันดับที่ 3 เมื่อระบบคอมพิวเตอร์พัฒนามาถึงการเชื่อมต่อเทคโนโลยีให้สามารถทำงานได้หลากหายโดยเฉพาะการควบคุมหุ่นยนต์
เราต้องพัฒนาขีดความสามารถเพื่อต่อยอดการควบคุมและความสามารถที่ไม่มีขีดจำกัดของเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสิ่งใหม่ๆ
“ผู้เขียน” ความคิดสร้างสรรค์ ในปัจจุบันการค้าได้เปลี่ยนไปมาก การค้าขายทางอินเทอร์เน็ตได้มีบทบาทมากขึ้นทุกวัน ว่ากันว่าอีกไม่กี่ปี คนส่วนใหญ่ในโลกนี้จะซื้อของทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพราะไม่มีเวลาที่จะไปเลือกซื้อสินค้าในสถานที่ต่างๆ
และเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าเมื่อส่งถึงบ้านแล้วไม่แพงกว่าที่ร้าน เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดการการขายลดลงอย่างมาก คุณอาจจะไม่คุ้นกับการซื้อข้าวสารคุณภาพเฉพาะคุณภาพดี ข้าวหอมมะลิ ข้าวก้อง ข้าวก้องหอมมะลิปลอดสารพิษ ข้าวก้องอินทรีย์ เหล่านี้
อนาคตอาจเป็นไปได้ ที่ข้าวถุงจะถูกส่งตรงจากโรงสีข้าวผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่มีแอพพลิเคชั่นซื้อสินค้ามากมาย ลองคิดแอพพลิเคชั่นที่สั่งซื้อข้าวสารบ้างจะได้ไหม ทำให้สำเร็จแล้วคุณจะเป็นผู้เปลี่ยนการขายข้าวสารจากโรงสีถึงผู้บริโภคเป็นคนแรก
ประการที่ 4 การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลหรือ Personal brand
ปัจจุบันองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์องค์กรและแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ในอนาคตเราจะก้าวไปสู่แบรนด์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะแบรนด์ส่วนบุคคลที่ปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ
เนื่องจากแบรนด์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะในโลกออนไลน์จะกลายเป็นปัจจัยที่นายจ้างหรือลูกค้าใช้ในการพิจารณาว่าท่านมีความเก่งโดดเด่นและแตกต่างจากบุคคลอื่นมากเพียงใด
“ผู้เขียน” เรื่อง Personal brand หลายท่านคงเข้าใจเรื่องนี้ ในอดีตการสร้างแบรนด์นั้นเราจะรับรู้แบรนด์คือ ยี่ห้อของสินค้า แต่ในยุคนี้ แบรนด์ คือ องค์กร เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ แต่ในวันนี้แบรนด์จะเป็น Personal brand คือ บุคคล ที่เป็นผู้นำขององค์กรนั้นๆ
ตัวอย่างมีหลายท่านถ้าเอ่ยชื่อก็รู้ทันทีว่าถูกต้อง ใช่แล้วครับ เขาคือแบรนด์ขององค์กรนั้นๆ แบรนด์ส่วนบุคคลที่ปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ จะกลายเป็นปัจจัยที่ลูกค้า นายจ้าง พนักงาน ใช้ในการพิจารณาว่าท่านมีความสามารถในด้านใด โดดเด่นและแตกต่างจากบุคคลอื่นอย่างไร เพื่อจะตัดสินใจในการติดต่อและทำธุรกรรมด้วย
ตัวอย่างในธุรกิจโรงสีข้าว เราอาจรู้จักแบรนด์ที่ถุงข้าวว่า ข้าวตรานี้ (แบรนด์นี้) คุณภาพการบริโภคเยี่ยมมาก หอม นุ่ม อร่อย เหมือนกันทุกครั้งที่หุง อย่างสโลแกนข้างถุงว่า “ อร่อยทุกถุง หุงขี้นหม้อ ” แค่นี้ท่านก็รู้แล้วว่าตราอะไร โรงสีไหนเป็นเจ้าของตรานี้
แต่ในอนาคต เราจะรู้ว่าเจ้าของคนนี้ ชื่อนี้ เป็นเจ้าของข้าวตรานี้ และตรานี้โรงสีอยู่ที่จังหวัดนั้น ชื่อโรงสีชื่อนี้ เราชอบคนๆ นี้เราจึงอยากจะอุดหนุนข้าวตราที่เขาเป็นเจ้าของ อยากบอกกับเขาว่าเราชอบคุณ อารมณ์จะประมาณนี้
ประการที่ 5 เรื่องของ Emotional intelligence หรือความฉลาดทางอารมณ์
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลายเป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้น จากรายงานของ WEF ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ Emotional intelligence จากที่ไม่เคยอยู่ในสิบอันดับแรกสำหรับทักษะที่สำคัญ ในปี 2015 ก็เข้ามาติดในสิบอันดับแรกของปี 2020
สาเหตุสำคัญก็คือ เรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจคนอื่นเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ (Empathy) การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลรอบด้านความมีน้ำใจ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่หุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงก็จะทำให้ตนเองมีค่าและแตกต่างจากหุ่นยนต์มากขึ้น
“ผู้เขียน” ความฉลาดทางอารมณ์ Emotional intelligence คือ การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลรอบด้านและลูกค้า ผู้ที่ติดต่อ ธุรกิจด้วย พนักงาน ประชาชนทั่วๆไปที่ได้มีการติดต่อและทำกิจกรรมด้วยเพราะหุ่นยนต์และเครื่องต้อนรับที่เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปไม่สามารถทำได้
ฉะนั้นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จึงมีค่ามากที่สามารถทำให้บุคคลรอบข้างมีความรู้สึกดีๆและมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ทำให้ทุกคนที่ได้พบเห็นอยากจะติดต่อและทำธุรกิจด้วย
ทักษะสำคัญทั้ง 5 ประการข้างต้น ล้วนแต่เป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์ต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคอมพิวเตอร์ และทักษะที่จะทำให้แต่ละบุคคลแตกต่างทั้งบุคคลอื่น และแตกต่างจากหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ หลายท่านถามมาว่าแล้วจะไปเรียนรู้จากที่ไหน?
ขอบพระคุณมุมมองใหม่ โดย รศ. ดร.พสุ เตชะรินทร์ คณะพาณิฯชยศาสตร์และการบัญชี จุฬา
————————–
ผมตั้งใจแบ่งปันความรู้จากประสบการณ์ 60 กว่าปีในเรื่องเครื่องสีข้าว และเทคโนโลยีในการสีข้าว เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจจะสร้างโรงสี เจ้าของโรงสีมือใหม่ วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์โรงสี หรือ โรงสีชุมชน
เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมข้าวไทยที่มีชื่อเสียงและคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างยาวนาน
ด้วยความปรารถนาดี
วิสูตร จิตสุทธิภากร
28 พ.ค. 2562